ยำปลาทูนึ่งสมุนไพร...ครัวแม่จอย...by tiny joy

         ...การดำเนินชีวิตโดยใช้วิชาการอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ จะต้องอาศัยความรู้รอบตัวและหลักศีลธรรมประกอบด้วย ผู้ที่มีความรู้ดี แต่ขาดความยั้งคิด นำความรู้ไปใช้ในทางมิชอบก็เท่ากับเป็นบุคคลที่เป็นภัยแก่สังคมของมนุษย์...

พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่๙
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

๑๘ ก.ย. ๒๕๐๔

****************************************************

    ...โดยส่วนตัวชอบกินปลาทูมาก กินมาตั้งแต่จำความได้ ถึงจะโดนก้างติดคอทุกครั้งก็เหอะ สมัยก่อนปลาทูราคาไม่แพงเลย รวมถึงอาหารทะเลด้วยคงเพราะเป็นเมืองที่ทำประมงด้วยมั้ง เย็นๆ ไปเดินเล่นที่สะพานปลาก็จะมีปลา ปู กุ้ง ติดมือกลับบ้านมาด้วยเสมอเพราะคนแถวสะพานปลาใจดีให้เด็กๆ เอากลับบ้าน พ่อเคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนเช่าบ้านอยู่ติดหลังบ้านของเจ้าของบ้านเช่า ซึ่งเลี้ยงแมวและจะทำข้าวคลุกปลาทูเลี้ยงแมวเป็นประจำ ฉันในวัยหัดคลานหัดเดิน ชอบคลานไปไล่แมวแล้วกินข้าวแมวในจานหน้าตาเฉย  พ่อยังล้อจนถึงทุกวันนี้ว่า ไอ้จอย..แย่งข้าวแมวกิน แหม...ก็มันอร่อยนี่นา เนี่ยจนป่านนี้ยังกินข้าวคลุกปลาทูอยู่เลย ปลาทูยังเอามาทำอาหารอร่อยๆ ได้อีกหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือยำปลาทู ใส่ผักสมุนไพรเข้าไปแล้วแต่ความชอบ ทำก็ง่ายสุดๆ แค่ระวังก้างเท่านั้นเอง...

  ส่วนผสม

1. ปลาทูนึ่งอวบๆ 2 ตัว

2. ตะไคร้

3. โหระพา

4. ผักชีใบยาว(ที่บ้านเรียกผักชีไทย)

5. หอมแดง

6. ขิง

7. ใบสะระแหน่

8. พริกขี้หนู

9. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

10. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ(ถ้าปลาทูมีรสเค็ม ก็ใช้น้อยลง)

11. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

  วิธีทำ

1. ล้างทำความสะอาดผักสมุนไพร แล้วผึ่งสะเด็ดน้ำพอแห้ง นำมาเด็ดใบ/หั่นซอยเป็นชิ้นเล็กๆ                                                                          

  

2. แกะปลาทูเอาเฉพาะเนื้อๆ ต้องระวังจะมีก้างน้อยๆ เอาก้างออกให้หมด(ใครจะนึ่งปลาทูอีกครั้งก่อนแกะก็ได้ หรือจะนำไปทอดก็จะหอมไปอีกแบบ)

3. เตรียมปรุงรส โดยใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาว ในชามแล้วผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน(ควรชิมเนื้อปลาทูก่อนจะเติมน้ำปลาลงไปนะ เดี๋ยวจะเค็มไป)

4. ใส่เนื้อปลาทูลงไปในชามผสม คลุกเบาๆ ให้ทั่ว

5. ใส่ผักสมุนไพรตามลงไป คลุกผสมกันอีกครั้งเบาๆ ไม่ควรคลุกนานเดี๋ยวผักช้ำ

6. เสร็จแล้ว ตักใส่จานพร้อมเสริฟได้เล้ยยยยย....

              ปลาทูปกติจะมีรสเค็มอยู่แล้ว ถ้ามีผู้ป่วยโรคหัวใจ ,ความดันสูง ต้องระมัดระวังเรื่องการปรุงรสเค็มใส่น้ำปลาแต่น้อยหรือจะไม่ใส่เลยก็ได้ ปรุงรสเปรี้ยวหวานก็อร่อยได้นะ

 รู้เล็กรู้น้อย
- การเลือกซื้อปลาทูนึ่งนั้น ให้พิจารณาดังนี้ ตัวจะสั้น ป้อม แบน ตาใส สีของปลาจะใส ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำเงินแกมเขียวหรือสีขาวของส่วนล่างก็ตาม กดแล้วเนื้อจะนิ่ม มีมันสีเหลืองเยิ้มอยู่ตามตัว ถ้าเนื้อแข็งแสดงว่าปลาไม่สดและเค็มเกินไป
- ปลาทูมีโปรตีนสูง ในปลาทู 1 ตัวจะให้โปรตีนสูงถึง 20 กรัมต่อน้ำหนัก100 กรัม ซึ่งเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย มีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงกระดูกและฟัน มี EPAและ DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว มีส่วนช่วยในการลดระดับไขมันชนิดที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดหรือหลอดเลือดอุดตันได้ มีโอเมก้า 3 และ 6 ที่มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง เป็นโครงสร้างที่สำคัญของเนื้อเยื้อบริเวณจอประสาทตา หรือ retina ที่ช่วยในการมองเห็นอีกด้วย

- วิธีที่จะประกอบอาหารให้มีกรดไขมันโอเมก้า3 ในปลาทู ไว้ให้ได้มากที่สุดก็คือ การยำปลาทู ต้มส้มปลาทู ฉู่ฉี่ปลาทู เพราะกรดไขมัน โอเมก้า3 จะละลายอยู่ในน้ำซุปหรือน้ำแกง ไม่สลายไปไหน การทอดจะทำให้โอเมก็้า3 ละลายไปกับน้ำมันที่ใช้ทอด 

ที่มา ;

สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรปราการ

http://sukkaphap-d.com

http://www.foodnetworksolution.com